วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2562

วิทยุติดตามตัวเกร็ดความรู้ในเชิงประวัติศาสตร์




จำได้ว่าวิทยุติดตามตัวเริ่มเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2523 ประมาณ 39 ปีผ่านมาแล้วในตอนนั้นราคาแพงมากเรียกได้ว่าหลายหมื่นเลยทีเดียวซึ่งผู้ทีใช้ก็ต้องเป็นนักธุระกิจต้องติดต่องานสำคัญซึ่งในช่วงเวลานั้นก็มีอินเตอร์เนทแต่ไม่แพร่หลายเหมือนในยุคปัจจุบัน ไม่มี Social Network แต่มีระบบ ATM ในส่วนของวิทยุติดตามตัวแบบ Classic นิยมเรียกว่า Paclink ซึ่งแสดงได้เฉพาะตัวเลขเท่านั้นตอนนั้นยังไม่มีแบบฝาก

ข้อความผ่าน Operator วิธีใช้งานต้องโทร...เข้าศูนย์บริการผ่าน Operator ให้โทร...กลับ 02 XXXXXXX จนต่อมาถึงยุคปี 2532 - 2538 วิทยุติดตามตัวพัฒานามาถึงขีดสุด คือ สามารถมีข้อความเป็นตัวอักษรได้ แต่ถ้าเกิด Error ก็จะกลายเป็นภาษาต่างดาวซึ่งเป็นความผิดพลาดของระบบและก็มีผู้ประกอบการให้เลือกหลายค่ายเหมือน

ค่ายมือถือในยุคปัจจุบันเช่นบริษัท Advance Info Service บริษัท สามารถ คอเปอร์เรชั่น บริษัท Hutchison Pagephone มาถึงยุคปลายของวิทยุติดตามตัวก็จะโฆษณาทางโทรทัศน์ของแต่ละค่ายงัดเอาโปรโมชั่นมาลดแลกแจกแถมกัน(ประมาณปี 2540 - 2545)หลังจากนั้นก็หมดยุคของวิยุติดตามตัว


หมายเหตุ...ก่อนจะหมดยุคของวิทยุติดตามตัว(Pager)ผู้ให้บริการของแต่ละค่ายจึงออกแบบมาสวยงามแต่ไม่ Classic เพื่อดึงดูดลูกค้าในกลุ่มวัยรุ่นอีกทางหนึ่งในช่วงปี 2545 Nokia 3310 & 3315 ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นและในช่วงเวลานั้นอินเตอร์เนทความเร็วแค่ 56 K เท่านั้นโดยค่ายยักษ์ใหญ่ Telecom Asia เริ่มให้บริการ


วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2562

เจ้าดำ




มีเรื่องจริงอยู่เรื่องหนึ่งซึ่งปรากฏในหนังสือ"กฏแห่งกรรม"ซึ่งเขียนขึ้นโดย คุณ ท.เลียงพิบูลย์ ซึ่งท่านได้ล่วงลับไปแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า ในครอบครัวหนึ่งนานมาแล้ว ครอบครัวนี้มีเด็กหญิงคนหนึ่ง อยู่มาวันหนึ่งเด็กหญิงคนนี้ได้พบกับน้องหมาตัวหนึ่ง(ตั้งชื่อว่าเจ้าดำ) ซึ่งกำลังโดนหมาใหญ่รังแกหรือประสบอุบัติเหตุ(จำไม่ได้ครับ) เด็กหญิงเห็นเข้าจึงขอให้คุณพ่อช่วยนำกลับมาบ้านเพื่อทำแผลและดูแลจนมันหายเป็นปกติ พ่อรับปากว่าได้แต่ไม่ทราบว่า เจ้าดำ ตัวนี้มีเจ้าของหรือเปล่า? ถ้ามีเจ้าของมาตามหาก็ต้องส่งคืนเจ้าของไป เด็กหญิงตอบว่าได้ค่ะและดีใจมาก จึงให้คุณพ่อเลี้ยงต่อไป และตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา"เจ้าดำ"ก็กลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งภายในครอบครัวนี้ เจ้าดำ เป็นหมาที่ฉลาดรู้จักประจบ - ประแจงและเชื่อฟังเจ้านาย วันไหนเด็กหญิงซึ่งอยู่ในวัยกำลังจะโตเป็นสาวจะออกไปทำธุระนอกบ้าน แต่กลับดึก เจ้าดำมันไม่ยอมแตะต้องข้าว - ปลาอาหารเลย จนกว่าเจ้านายมันจะกลับมามันจึงยอมทานอาหาร เด็กหญิงทราบดี คราวต่อไปจะออกจากบ้าน จึงสั่ง เจ้าดำ ว่าไม่ต้องรอให้ทานอาหารแล้วเข้านอน เจ้าดำ จึงยอมปฏิบัติตามแต่โดยดีโดยไม่มีข้อโต้แย้ง อยู่มาวันหนึ่ง เด็กหญิงได้ชวนเพื่อน ๆ มาที่บ้านเพื่อรับอาหารร่วมกันหรือสังสรรกันที่สนามหญ้าหน้าบริเวณบ้าน ก็ทั้งก็เฮฮา ตามประสาเด็กโดยหารู้ไม่ว่า อันตรายกำลังคลืบคลานมา มีงูเห่าตัว

หนึ่งมาจากไหนไม่ทราบเลื้อยเข้ามาจะเข้ามาทำร้ายเด็ก ๆ ในกลุ่มซึ่งกำลังสนุกสนานและไม่รู้ตัวว่ากำลังมีอันตราย ทันใดนั้น เจ้าดำ ซึ่งคอยดูอยู่ห่าง ๆ ก็เห็นเข้าจึงเข้ามาต่อสู้กับงูเห่าตัวนั้นโดยไม่คิดถึงชีวิตมันเอง จนงูเห่าตัวนั้นสู้เ จ้าดำ ไม่ได้เลื้อยหนีไป ตกกลางคืนเจ้างู จอมพยาบาทตัวนั้นไม่ยอมลด - ลา แต่ เจ้าดำ รู้โดยสัญชาติญาณของมันเองปกติมันนอนที่ห้องเจ้านาย แต่คืนนั้นมันไม่นอนมันพยายามบอกเจ้าของมันว่างูเห่าตัวนันจะกลับมาอีกมันจึงไปนอนเฝ้าหน้าห้องของเด็กหญิง และก็เป็นความจริง งูเห่าตัวนั้นมาจริง ๆ เจ้าดำ จึงปกป้องเจ้านายของมันโดยเดิมพันด้วยชีวิต และเจ้าดำก็เพรี่ยงพร้ำโดนงูเห่ากัดเข้า แต่เจ้าดำไม่ยอมแพ้ ได้กัดงูเห่าตัวจนตาย พอรุ่งเช้า เด็กหญิงเปิดประตูห้องออกมากเห็น เจ้าดำ กำลังจะสิ้นใจไปต่อหน้าต่อแล้ว เด็กร้องไห้และอาลัยรัก เจ้าดำ อย่างสุดหัวใจ ในที่สุด เจ้าดำ ก็ตายจากไป เหลือความดีที่ เจ้าดำ ได้ตอบแทนเจ้านายของมันด้วยความซื่อ'สัตว์และจงรัก - ภักดี นี่เป็นส่วนหนึ่งซึ่งย่อเอาใจความออกมา

จากหนังสือ กฏแห่งกรรม คิดว่าบางท่านคงได้รับทราบเรื่องราวเหล่านี้มา บ้างแล้ว หาใครสนใจเรื่องราว ของ เจ้าดำ ลองไปหาซื้อหนังสือ กฏแห่งกรรม ซึ่ง รจนาโดย คูณ ท.เลียงพิบูลย์มาอ่าน ลืมไปแล้วอยู่เล่มไหนเพราะ ท่านเขียน ออกมาหลายเล่ม เป็นตอน ๆ ตัวอย่างความ ซื่อสัตย์และจงรักภักดีของน้องหมาจนกลายเป็นวีรกรรมให้โจษขานเล่าต่อ ๆไปไม่รู้จบ แล้วเราเป็นมนุษย์ยังจะทำร้ายน้องหมาได้ลงคอเชียวหรือ ไปกู้ข้อมูลมาจาก Bloggang - pantip เขียนเรื่องนี้ไว้นนานหลายปีแล้วที่เว็บ พันธ์ทิพย์ กลัวข้อมูลหายเพราะไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไรก็เลยนำมาลงไว้ ใต้ร่มธรรมแห่งนี้ หวังว่าอย่างน้อยก็คงมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อย ทุกสิ่งไม่แน่นอนบางทีเข้าระบบไม่ได้


วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561

เทศกาลงดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ประจำปี 2561

IMG_0000000000035990666

ILMMG_0000000082309777

P_9102001380000020




ISMG_000000000203000


1 ช่วยชีวิตสัตว์ได้นับพันนับหมื่น

2 สุขภาพกายและใจดีอยู่เสมอ

ในพระสูตรของพระพุทธศาสนามหายานเล่าว่า
สมัยหนึ่ง…องค์สมเด็จพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ได้เสด็จไปเทศนา โปรดบรรดาเหล่าพญานาคทั้งหลาย
พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสธรรมกถาวิสัชนาแสดงแก่พญานาคราชความว่า

บุคคลใด หยุดการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และงดเว้นเสียจากการเสพเลือดเนื้อสัตว์ อีกทั้งยังชี้นำส่งเสริมให้หมู่ชนทั้งหลายหยุดฆ่า หยุดเสพชีวิต
เลือดเนื้อผู้อื่น บุคคลผู้นั้นย่อมห่างไกลจากอกุศลมูลทั้งปวง
และบริบูรณ์พร้อมด้วยอานิสงส์

อานิสงส์ทั้ง ๑๐ ประการ ได้แก่…
๑. เป็นที่รักใคร่ของบรรดาเทพ พรหม ตลอดจนมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
๒. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
๓. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์เหี้ยมโหดเครียดแค้นในใจลงได้
๔. ปราศจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
๕. มีอายุมั่นขวัญยืน
๖. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากวัชรเทพทั้งแปด
๗. ยามหลับนิมิตรเห็นแต่สิ่งที่ดีงามเป็นศิริมงคล
๘. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ่งกันและกัน
๙. สามารถดำรงอยู่ในกระแสแห่งนิพพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่อบายภูมิ
๑๐. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตญาณจะมู่งสู่คติภพ