วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2557

วันสงกรานต์กับพุทธศาสนา





วันสงการนต์ ปี 2546


ตามประเพณีสงกรานต์ปัจจุบันอย่างหนึ่งคือการเล่นน้ำและการใช้น้ำเป็นเครื่อง ประกอบในประเพณีสงกรานต์ เช่น การรดน้ำผู้ใหญ่และการสรงน้ำพระ เป็นต้น ในสมัยพุทธกาลได้มีประเพณีซึ่งเป็นการละเล่นที่เป็นงานมหรสพของผู้คนในสมัย นั้นโดยการใช้น้ำเช่นกัน ซึ่งย่อมเป็นไปได้ที่จะสืบทอดมาจนถึง

ปัจจุบันในงานประเพณี สงกรานต์ในปัจจุบัน เพราะทำประจำในเดือน 4 เช่นกันดังข้อความในพระไตรปิฎกที่ว่า พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม 2 ภาค 3 ตอน 3 - หน้าที่ 31 ก็สมัยนั้น มหาชนพากันเล่นมหรสพในอุตตรผัคคุณีนักขัตฤกษ์ปลายเดือน ๔ ทุก ๆ ปี กระทำพิธีสรงน้ำที่ท่าใกล้แม่น้ำคยา, ด้วยเหตุนั้นชนทั้งหลายพากันเรียกมหรสพนั้นว่า คยาผัคคุณี ดังนี้ ในการละเล่นที่ใช้น้ำในสมัยพุทธกาลที่เรียกว่า คยาผัคคุณี มีการใช้น้ำเป็นหลักด้วย ความเชื่อของบุคคลสมัยนั้นว่า น้ำคือสิ่งที่ชำระล้างบาป อกุศลธรรมที่ได้ทำไว้ได้ แต่ พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงพระธรรมให้มหาชนมีความเข้าใจถูกว่าน้ำไม่

สามารถชำระล้าง กิเลสได้ แต่ปัญญา กุศลธรรมประการต่าง ๆ เท่านั้นที่จะชำระล้างกิเลสที่สะสมมาจนหมดสิ้นได้ ดังข้อความพระไตรปิฎกที่ว่า ประเพณีในปัจจุบันมีการสรงน้ำพระภิกษุสงฆ์โดยฆราวาส ซึ่งไม่ใช่กิจของฆราวาสและ พระภิกษุท่านก็ไม่ได้ป่วยจึงไม่ใช่กิจที่คฤหัสถ์ทั้งหลายจะสรงน้ำพระ การแสดงออกถึง การเคารพ สักการะในพระภิกษุสงฆ์คือการน้อมถวายปัจจัย 4 อันสมควรเหมาะสมกับพระ ภิกษุและการทำความเคารพยำเกรงในพระภิกษุสงฆ์ การสรงน้ำพระภิกษุ จึงไม่ใช่การ แสดงออกถึงการเคารพในพระภิกษุสงฆ์ที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ซึ่งในสมัยพุทธกาล พระภิกษุทั้งหลายจะสรงน้ำด้วยตนเอง หากพระรูปใดป่วยก็เป็นพระภิกษุช่วยสรงน้ำให้ กัน ดังที่พระพุทธเจ้าช่วยอาบน้ำให้พระภิกษุผู้

อาพาธน้ำในธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า น้ำในพระธรรมวินัยของพระอริยเจ้าที่เป็นความเห็นถูกก็อย่างหนึ่ง น้ำตามความ เข้าใจของปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ไม่ได้ฟังอีกอย่างหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงแสดงความจริงที่ เป็นสัจจะให้ผู้ที่มีความเห็นผิด ได้มีความเห็นถูกในความเข้าใจเรื่องการละกิเลสการดับ กิเลสว่าน้ำไม่ใช่เหตุให้ละกิเลสได้ หากเธอจะอาบน้ำเพื่อละกิเลส เธอจงอาบน้ำนี้ซึ่ง สามารถละกิเลสได้ น้ำที่พระองค์ทรงแสดงจึงไม่ใช่น้ำที่เราเข้าใจกัน แต่เป็นน้ำคือ อริยมรรคที่มีความเห็นถูกเป็นหัวหน้า ให้เข้าใจความจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรมที่ไม่เที่ยง และไม่ใช่เรา นี่คือน้ำในพระธรรมวินัยที่จะชำระล้างกิเลสที่สะสมมาที่เป็นความไม่รู้ ไม่รู้ ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ปัญญาเท่านั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อกิเลส ไม่ใช่น้ำที่จะชำระล้างกิเลสได้